บทความแนะนำ
จัดเลี้ยงโต๊ะจีนงานแต่งดีไหม
จัดเลี้ยงโต๊ะจีนงานแต่งดีไหม?? มาทำความรู้จักกับการจัดเลี้ยงแต่ละแบบกันก่อน
การจัดงานแต่งงาน สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไม่ได้เลยนอกจากขั้นตอนการทำพิธี การเตรียมตัวของเจ้าบ่าวเจ้าสาว และการจัดพื้นที่งานแต่งแล้ว ก็คือการจัดเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานนั่นเอง ซึ่งการจัดเลี้ยงที่นิยมก็มีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ โต๊ะจีน ค็อกเทล และบุฟเฟต์ โดยการจัดเลี้ยงแบบไหนมีข้อดีข้อเสียอย่างไรและควรจัดเลี้ยงแบบไหนดีกว่ากันก็ต้องไปดูกันเลย
1.การจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน
เป็นรูปแบบการจัดเลี้ยงงานแต่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเรามักจะเห็นการจัดเลี้ยงในรูปแบบนี้บ่อยมาก ซึ่งนั่นเป็นเพราะอะไร เรามาดูข้อดีข้อเสียของการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนกันเลย
ข้อดี
- สะดวกสบายต่อแขกที่มาร่วมงาน เพราะการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน แขกไม่ต้องเดินไปตักอาหารด้วยตัวเอง จะมีคนมาให้บริการยกอาหารมาเสิร์ฟถึงที่ จึงสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงานแต่งได้เป็นอย่างดี
- เป็นรูปแบบการจัดเลี้ยงที่เหมาะกับงานแต่งงานที่มีแขกผู้ใหญ่ หรือวัยสูงอายุเป็นหลัก เนื่องจากวัยนี้มักจะไม่ค่อยชอบการเดินตักอาหารเองมากนัก ประกอบกับสุขภาพร่างกายไม่ค่อยเอื้ออำนวยด้วยแล้ว การมีคนมาเสิร์ฟอาหารถึงที่จึงตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ดีกว่า
- ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องอาหารไม่พอมากนัก เพราะจะมีการคำนวณอย่างดีว่าต้องจัดทั้งหมดกี่โต๊ะ ซึ่งปกติแล้วการจัดโต๊ะจีนแขกที่มาร่วมงานจะต้องนั่งให้เต็มทุกโต๊ะ จึงคำนวณได้ง่ายมาก และมีความผิดพลาดน้อยที่สุด
- มีอาหารครบถ้วนทั้งของคาวของหวานอยู่ในแพคเกจและราคาเดียวกัน จึงไม่ต้องยุ่งยากกับการสั่งอาหารคาวหวานแยกต่างหาก
ข้อเสีย
- ต้องใช้พื้นที่ในการจัดโต๊ะจีนเยอะมาก เพราะจะต้องจัดให้ครบทีเดียวทุกโต๊ะ เนื่องจากต้องให้แขกมาพร้อมกันตามเวลาที่กำหนดแล้วจึงเริ่มเสิร์ฟอาหาร แต่การจัดเลี้ยงรูปแบบอื่น แขกจะทยอยมาทยอยกลับเรื่อยๆ ทำให้ไม่ต้องจัดโต๊ะมากนัก จึงใช้พื้นที่น้อยกว่าการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนนั่นเอง
- อาจเกิดบรรยากาศที่ไม่ค่อยดีบนโต๊ะอาหาร เพราะโต๊ะจีนต้องพาแขกทุกคนไปนั่งให้เต็มโต๊ะ จึงอาจมีแขกที่ไม่รู้จักต้องมานั่งด้วยกัน ทำให้เกิดการเกร็งในการทานอาหารได้
2.การจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล
การจัดเลี้ยงงานแบบรูปแบบนี้จะเน้นความเป็นกันเอง ไม่เน้นพิธีการมาก และมีความเรียบหรู ดูดี โดยข้อดีข้อเสียของการจัดเลี้ยงงานแต่งแบบโต๊ะจีนเป็นอย่างไรก็ต้องมาดูกันเลย
ข้อดี
- ให้บรรยากาศที่เป็นกันเอง เหมือนอยู่ในงานเลี้ยงที่แม้จะมีคนที่ไม่รู้จักกันบ้าง แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัด แถมยังทำให้เกิดความสนุกสนานมากขึ้นอีกด้วย
- แขกสามารถตักอาหารมาเดินไปทานไปได้โดยไม่น่าเกลียด ในขณะที่การจัดเลี้ยงรูปแบบอื่นหากเดินไปทานไปด้วยจะต้องถูกมองด้วยสายตาตำหนิจากแขกคนอื่นๆ ที่อยู่ในงานอย่างแน่นอน
- การจัดเลี้ยงรูปแบบนี้แขกจะให้ความสนใจกับกิจกรรมบนเวทีมากกว่ารูปแบบอื่นๆ
ข้อเสีย
- ดูไม่เป็นระเบียบ เนื่องจากแขกจะแย่งกันตักอาหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นวายได้
- อาหารที่เตรียมไว้อาจหมดไว เพราะเราไม่สามารถคำนวณได้ว่าแขกแต่ละคนทานมากน้อยแค่ไหน ทำให้อาหารที่เตรียมมาไม่เพียงพอต่อจำนวนแขก ซึ่งหากต้องการจัดเลี้ยงงานแต่งรูปแบบนี้ก็ควรเตรียมเมนูสำรองไว้ด้วย เมื่ออาหารใกล้หมดจะได้ทำเมนูใหม่มาเสริมได้ทันนั่นเอง
3.การจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์
บุฟเฟต์ก็จะคล้ายกับแบบค็อกเทล แต่ไม่เน้นในเรื่องของความหรูหราเหมือนค็อกเทล ซึ่งข้อดีข้อเสียของการจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ก็มีดังนี้
ข้อดี
- มีอาหารให้เลือกหลายอย่าง จึงทำให้แขกมีตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงานได้ดีทีเดียว
- มีการจัดพื้นที่ให้แขกสามารถนั่งทานอาหารหรือจะเดินทานไปด้วยคุยไปด้วยแบบค็อกเทลก็ได้ แต่มีการแบ่งเป็นสัดส่วนทำให้ดูเป็นระเบียบมากกว่า
- สะดวกทั้งเจ้าภาพและแขก เพราะแขกสามารถเดินมาตักอาหารได้ตามใจชอบ ส่วนเจ้าภาพก็ไม่ต้องยุ่งยากกับการหาคนมาเสิร์ฟอาหาร
ข้อเสีย
- เนื่องจากการจัดเลี้ยงแบบนี้จะให้แขกสามารถตักอาหารได้อย่างอิสระ จึงอาจทำให้อาหารที่เหลืออยู่ดูไม่ค่อยน่ากินสักเท่าไหร่ และไม่ค่อยปลื้มสำหรับแขกที่มาตักทีหลังมากนัก
- ไม่สะดวกสำหรับแขกผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ เพราะแขกวัยนี้จะไม่ค่อยสะดวกกับการเดินไปตักอาหารมากนัก โดยเฉพาะหากมีคนเยอะด้วยแล้ว คงไม่ดีแน่ถ้าต้องไปเดินเบียดหรือยืนรอเป็นเวลานาน
ทีนี้ก็ทราบกันแล้วว่าการจัดเลี้ยงงานแต่งแบบไหนมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ทั้งนี้ก็ลองพิจารณากันดูว่าควรจัดเลี้ยงแบบไหนมากกว่ากัน ซึ่งก็ต้องดูจากหลายปัจจัย เช่น งบประมาณ สถานที่ในการจัดงานแต่ง แขกเหรื่อที่มาร่วมงานส่วนใหญ่อยู่ในวัยไหน เป็นต้น อย่างไรก็ลองพิจารณาเลือกรูปแบบการจัดเลี้ยงให้เหมาะสมและตรงตามความต้องการของคุณกันดู แล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน และที่สำคัญอย่าลืมพยายามคำนวณปริมาณอาหารให้เพียงพอต่อจำนวนแขกมากที่สุดด้วย
